สถานที่ท่องเที่ยว

องค์พระสมุทรเจดีย์

พระสมุทรเจดีย์ หรือที่ชาวปากน้ำเรียกว่า พระเจดีย์กลางน้ำ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญและเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดสมุทรปราการ ทางราชการจึงได้ถือเอาพระสมุทรเจดีย์เป็นตราจังหวัดสมุทรปราการ พระสมุทรเจดีย์ ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก อำเภอพระสมุทรเจดีย์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการที่พระองค์ทรงสละพระราชทรัพย์ เพื่อปกป้องประเทศชาติและพระศาสนา โดยโปรดฯ ให้กรมพระราชวังสถานมงคลมหาศักดิพลเสพ กับพระยาราชสงครามเขียนแบบแผนผังรูปพระเจดีย์ถวาย แล้วทรงเฉลิมพระนามว่า “ พระสมุทรเจดีย์ ” องค์พระสมุทรเจดีย์ที่ได้ทรงก่อสร้างในครั้งนี้รูปทรงเป็นรูปสี่เหลี่ยมไม้สิบสอง มีกำแพงแก้วสองศอกคืบล้อมรอบองค์พระเจดีย์ มีศาลาทั้งสี่ทิศ มุงด้วยกระเบื้องจีน สิ้นพระราชทรัพย์ทั้งสิ้น 133 ชั่ง 10 ตำลึง 9 บาท สลึงเฟื้อง หรือ 10,689 บาท 37 สตางค์

ตลาดโบราณบางพลี

ตลาดน้ำโบราณบางพลีเป็นชุมชนใหญ่ชุมชนหนึ่งและมีความรุ่งเรืองมากในอดีต เป็นตลาดขนส่งสินค้า และผู้โดยสารจากภาคตะวันออกชายฝั่งทะเลสู่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากการเดินทางในสมัยก่อน ใช้เรือเป็นพาหนะเดินทางโดยการพายและแล่นใบเดินทางมาค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าในคลองสำโรง 

ตลาดน้ำบางพลีจึงถือเป็นตลาดน้ำประวัติศาสตร์แห่งหนึ่ง ที่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและมีวัฒนธรรมที่ดีงามสั่งสมอยู่มากมายสมควรอนุรักษ์ฟื้นฟูให้เยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษา ระยะทางเกือบหนึ่งกิโลเมตร ตลอดแนวสองฝั่งทางเดินที่ขนานไปกับคลองสำโรงของตลาดน้ำโบราณบางพลี จำหน่ายสินค้านานาชนิด ทั้งอาหารอร่อย ขนมหวาน ของฝาก ร้านขายเสื้อผ้า ของใช้นานาชนิด

วัดอโศการาม

วัดอโศการาม เป็นวัดที่สำคัญวัดหนึ่ง และเป็นสถานที่สำหรับวิปัสสนากรรมฐาน ตั้งอยู่ที่เทศบาลบางปูซอย 60 ถนนสุขุมวิท คำว่า “อโศการาม” แปลว่า แหล่งรื่นรมย์ที่ไร้ความเศร้าหมอง ซึ่งเมื่อก้าวเท้าเข้าสู่วัดแห่งนี้แล้ว ต้องยอมรับว่าเป็น “แหล่งรื่นรมย์ ” และ “ร่มรื่น” ไปด้วยพรรณไม้นานาชนิดไม่ว่าจะเป็นป่าโกงกาง ไม้ลำพู หรือปลงทอง ภายในพื้นที่ 43 ไร่ของวัดแห่งนี้ มีสิ่งน่าชมหลายอย่าง อย่างแรกคือ พระธุตังคเจดีย์ มีลักษณะเป็นพระเจดีย์หมู่รวม 13 องค์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่ง “ธุดงควัตร 13 ข้อ” นอกจากนี้ยังมีการสร้างอนุสาวรีย์พระเจ้าอโศกมหาราชไว้ภายในวัด สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไปได้ถวายสักการะ และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนามายังดินแดนสุวรรณภูมิ

วัดบางพลีใหญ่ใน

วัดบางพลีใหญ่ใน อำเภอบางพลีใหญ่ จังหวัดสมุทรปราการ ถือเป็นชื่อของวัดพระอารามหลวงชั้นตรีที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน โดยสร้างขึ้นในสมัยก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นวัดที่ใช้ประดิษฐานหลวงพ่อโตซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ปางมารวิชัย และเป็นหนึ่งในพระสามพี่น้อง วัดแห่งนี้เดิมมีชื่อว่า วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในชัยชนะ ซึ่งต่อมาได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์ใหญ่สมัยสุโขทัยปางมารวิชัยลืมเนตร หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อโต มาเป็นพระประธานในโบสถ์ ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสของประชาชนโดยทั่วไป เมื่อท่านที่จะไปกราบขอพรหลวงพ่อโต ให้ท่านนำปลาตะเพียนเงินปลาตะเพียนทองไปถวายท่าน กล่าวกันว่าผู้นั้นจะประสบความสำเร็จ ดังใจหมาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่ชาวบางพลีปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาทุก ๆ ปี คือพิธีโยนบัวหรือรับบัว ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 และบริเวณติดกับวัดยังมีตลาดริมน้ำโบราณให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมและเลือกซื้อ ซึ่งมีทั้งอาหารและของใช้ต่าง ๆ อีกด้วย

ป้อมพระจุลจอมเกล้า

ป้อมพระจุลจอมเกล้า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประเภทสิ่งก่อสร้างที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ทางเรือ ป้อมนี้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ห่างจากพระสมุทรเจดีย์ประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งหลังจากเปิดป้อมพระจุลฯ ได้เพียง 2 เดือนเศษก็เกิดเหตุการณ์ ร.ศ. 112 ที่เรือรบฝรั่งเศสได้ล่วงล้ำอธิปไตยทางทะเลโดยบุกรุกเข้ามาและเกิดการยิงต่อสู้กันได้รับความเสียหายทั้งสองฝ่าย นอกจากป้อมพระจุลฯ แล้ว ภายในบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 และภายใต้แท่นที่ประทับได้จัดทำเป็นห้องสำหรับแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับภาพประวัติศาสตร์ของเมืองปากน้ำ นอกจากนี้กองทัพเรือยังได้ดำเนินการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เรือรบไทย โดยนำเรือหลวงแม่กลองซึ่งเป็นเรือรบที่มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 60 ปี มาอนุรักษ์เพื่อจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์เรือรบกลางแจ้ง เพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ทางประวัติศาสตร์

สถานที่ตากอากาศบางปู

สถานตากอากาศบางปู หรือ บางปู เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในแบบพักผ่อนตากอากาศทางชายทะเลด้านอ่าวไทยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตั้งอยู่ ถนนสุขุมวิท อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ภายในบริเวณพื้นที่ 639 ไร่ ของสถานตากอากาศแห่งนี้ มีธรรมชาติอันสมบูรณ์ มีเส้นทางชมป่า ชมนก โดยมีจำนวนนกกว่า 200 ชนิดอาศัยอยู่ให้นักท่องเที่ยวได้ชมตลอดทั้งปี จึงทำให้บางปูเป็นแหล่งดูนกที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของประเทศไทยอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนกนางนวลจำนวนเป็นพันเป็นหมื่นตัว ที่อพยพหนีหนาวจากไซบีเรียมาในช่วงต้นฤดูหนาว ประมาณกลางเดือน ต.ค. – พ.ย. ของทุกปี ตรงเข้าไปสุดถนนจะเป็นสะพานสุขตา สะพานที่ทอดตัวยาวไปในทะเลประมาณ 400 เมตร จุดที่เหมาะแก่การดูนกและชมพระอาทิตย์ตก

วัดใหม่บางปลากด

วัดใหม่บางปลากด เดิมชื่อ วัดใหม่ ตั้งอยู่ที่ ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการซึ่งมีอายุมายาวนาน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นวัดที่พุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศ ให้ความเลื่อมใส ศรัทธา ไปสักการะอยู่เป็นประจำ 

การเดินทางจากกรุงเทพ ฯ (ข้ามสะพานพระราม 9) ลงสะพานแล้วชิดซ้ายไปสุขสวัสดิ์ และวิ่งจากสุขสวัสด์ ตรงผ่านสามแยกพระประแดง ข้ามสะพานบางปลากด กลับรถและตรงไปประมาณ 400 เมตร เลี้ยวเข้าซอยวัดใหญ่ ข้ามสะพาน จะพบวัดใหม่บางปลากดอยู่ทางขวามือ

วัดสาขลา

วัดสาขลา สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.2325 สันนิษฐานว่า ชาวบ้านช่วยกันสร้าง เมื่อคราวรบชนะพม่า แต่เดิมหมู่บ้านที่ตั้งวัด เรียกกันว่า "สาวกล้า" ต่อมาคำพูดเพี้ยนมาเป็นสาขลา ทำให้นามวัดเปลี่ยนมาเป็น "วัดสาขลา" ตามไปด้วย วัดสาขลาได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อประมาณ พ.ศ. 2375 มีพระประธานในวิหารคือ หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยอู่ทอง ปางมารวิชัย ถือเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านและประชาชนทั่วไป สัญลักษณ์อีกอย่างของวัดสาขลาก็คือ "พระปรางค์เอียง" ซึ่งเป็นพระปรางค์เก่าแก่ มีความสูง 13 วา ลักษณะของพระปรางค์เอนไปด้านข้าง ถ้ามาถึงที่นี่แล้วไม่ได้ไปถ่ายภาพกับพระปรางค์เอียง เรียกว่ามาไม่ถึงวัดสาขลา

กุ้งเหยียด และ ปลาสลิดบางบ่อกุ้งเหยียด

นับเป็นสินค้าโอทอป ที่เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้านสาขลา จ.สมุทรปราการ ซึ่งเมนูนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เดิมกุ้งเหยียดเป็นเมนูที่ทำกินกันเองแค่ภายในครอบครัว แต่ด้วยรสชาติที่อร่อย ใครชิมก็ติดใจ จึงทำให้เป็นที่นิยม และ ค้าขายกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันเลยทีเดียว 

หากจะเล่าย้อนไปในอดีต เมื่อ 40 กว่าปีก่อน ตอนนั้นยังไม่มีใครเรียกว่ากุ้งเหยียด ก็เรียกขานกันไปว่า กุ้งเชื่อม หรือ กุ้งหวาน แต่ด้วยความบังเอิญระหว่างกระบวนการทำกุ้งต้มของลุงกา พบว่า มีกุ้งบางตัว เหยียดตรง ดูสวยงาม สะดุดตา ลุงกาจึงหาวิธีทำให้กุ้งทั้งหมดเหยียดตรงแบบนั้นบ้าง ลองผิด ลองถูกจนทำสำเร็จ ก็พบว่ากลายเป็นสินค้าที่หลายคนชื่นชอบ นับแต่นั้นเป็นต้นมา

 พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย

หากใครชอบเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ เติมพลังชีวิตในวันว่างแล้วล่ะก็ ต้องขอแนะนำให้มาที่นี่ เพราะนี่คือ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ที่เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อการเรียนรู้ และการพักผ่อนหย่อนใจ อยู่ในบางกระเจ้า แลนด์มาร์คที่นักปั่นจักรยานชื่นชอบ แวะเวียนมาทำกิจกรรมทุกวันหยุดเสมอ ภายในพิพิธภัณฑ์นั้นแบ่งออกเป็นสี่ส่วน อันได้แก่ บ้านรักรู้ หอโลกหอธรรม เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และลานคนกล้า